กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
ครั้นเล่าปี่และเหล่าตังสินขุนนางพระเจ้าเหี้ยนเต้ ได้วางแผนกำจัดโจโฉ โจโฉจับจึงได้สังหารตังสิน ส่วนเล่าปี่หลบหนีไปได้ โจโฉจึงยกทัพปราบเล่าปี่ เล่าปี่รู้ว่าโจโฉยกทัพมาจึงสั่งให้กวนอูนั้นดูแลภรรยาทั้งสองของตนเอง จากนั้นเล่าปี่และเตียวหุยออกรบต้านโจโฉ ในศึกครั้งนั้นเล่าปี่พ่ายแพ้ แตกทัพไปคนละทิศละทางกับเตียวหุย
หลังจากเล่าปี่แพ้ กวนอูหวังสู้ตายไม่ยอมแพ้โจโฉ เตียวเลี้ยวทหารเอกโจโฉ ผู้ที่มีไมตรีกับกวนอูมาแต่ก่อน ได้อาสามาเกลี้ยกล่อมกวนอูโดยเตียวเลี้ยวนั้นรู้นิสัยใจคอกวนอูอีกทั้งยังมีชั้นเชิงการเจรจาเป็นอย่างดี เตียวเลี้ยวได้ออกไปเจรจากับกวนอูให้ยอมแพ้แล้วมาเข้าร่วมด้วยกับโจโฉ โดยเตียวเลี้ยวได้อธิบายถึงข้อเสียสามประการหากกวนอูไม่ยอมแพ้
ประการแรก เดิมท่านกับเล่าปี่ เตียวหุย ได้สาบานไว้ต่อกัน ว่าแม้จะไม่เกิดวันเดียวกันแต่จะขอตายวันเดียวกัน บัดนี้เล่าปี่และเตียวหุยแตกไป ท่านก็ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย หากทั้งสองยังอยู่แต่ท่านมาด่วนจากไปก่อนมิเท่ากับผิดคำสานบานจะมิเสียสัตย์ไปหรือ
ประการสอง เล่าได้มอบหมายให้ท่านดูแลพี่สะใภ้ทั้งสองมิให้เป็นอันตราย หากท่านตายไปจะมิเสียความไว้วางใจจากเล่าปี่ไปหรือ
ประการสาม ตัวท่านก็มีฝีมือกล้าหาญ มีสติปัญญา ท่านควรที่จะรักษาชีวิต คอยเล่าปี่ และช่วยทำนุบำรุงพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้ครองราชย์สมบัติสืบไป
พอกวนอูได้ฟังก็เห็นเป็นจริงดั่งคำที่เตียวเลี้ยวกล่าวทุกประการ กวนอูจึงขอคำสัญญาสามประการจากโจโฉ ถ้าให้ครบทั้งสามข้อกวนอูก็จะถอดเกราะยอมแพ้เสียโดยดี
ประการแรก ซึ่งเราจะลงไปอยู่ด้วยกับท่านอัครมหาเสนาบดีโจโฉนั้น จะต้องยอมรับว่าเป็นการอยู่รับราชการในพระเจ้าเหี้ยนเต้
ประการสอง เราจะขอปรนนิบัติพี่สะใภ้ทั้งสอง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาใกล้กรายแม้เพียงประตูบ้านโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต จะขอเอาเบี้ยหวัดที่เคยพระราชทานแก่เล่าปี่ให้เป็นค่าใช้จ่ายของพี่สะใภ้ทั้งสอง
ประการสาม วันเวลาใดถ้าหากเรารู้ว่าเล่าปี่พี่เราอยู่แห่งหนตำบลใด ถึงมาตรแม้นว่าเรายังมิได้ลาท่านอัครมหาเสนาบดี เราก็จะไปหาเล่าปี่ในทันที ท่านอัครมหาเสนาบดีจะห้ามปรามมิได้
ถึงกวนอูนั้นจะยอมถอดเกราะยอมแพ้แต่เหล่าที่ปรึกษาของโจโฉอย่างซุนฮกได้มาเตือนโจโฉว่าให้ระวังกวนอู กวนอูทำเช่นนี้อาจจะเป็นอุบายก็ได้ แต่โจโฉนั้นมองกวนอูได้อย่างทะลุและบอกซุนฮกไปว่า
โจโฉ : “กวนอูเป็นคนมีความสัตย์ เห็นจะไม่คิดอ่านล่อลวงเรา”
โจโฉนั้นเป็นคนชื่นชมคนเก่ง คนที่มีความสามารถ โจโฉเคยมีสายตาเหลมคมเมื่อครั้นกองทัพ 18 หัวเมืองทำศึกกับตั่งโต๊ะ โจโฉได้ขอร้องแก่อ้วนเสี้ยวให้โอกาสกวนอูทหารเลว* ได้ออกไปสู้รบกับฮัวหยง แน่นอนว่าโจโฉก็ต้องการที่จะได้คนเก่งมาร่วมทีมของตัวเอง
โจโฉได้ เสนอทำแหน่งให้กวนอู เงินทอง แพรอย่างดี สามก๊กทุกฉบับระบุความตรงกันว่า “โจโฉทำนุบำรุงกวนอูมิได้อนาทร สามวันแต่งโต๊ะไปให้ครั้งหนึ่ง ห้าวันครั้งหนึ่ง แล้วจัดหญิงสาวที่รูปงามสิบคนให้ไปอยู่ปฏิบัติกวนอู”
กวนอูนั้นจิตใจไม่หวั่นไวไปกับลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ที่โจโฉปรนเปรอให้เลยแม้แต่น้อย โจโฉรู้ว่าไม่ได้ผลแต่ก็ยังทำทุกวิถีทางมอบเสื้อใหม่และม้าเซ็กเธาว์ให้แก่กวนอู (การมอบม้าเซ็กเธาว์ให้กวนอูนั้นถือว่าเป็นความใจนักเลงของนักบริหารอย่างโจโฉ กล้าได้กล้าเสีย)
ท้ายที่สุดกวนอูก็ได้ทำงานชิ้นสำคัญให้แก่โจโฉคือการ สังหารงันเหลียงและบุนทิว ทหารเอกของอ้วนเสี้ยว และเมื่อรู้ข่าวว่าเล่าปี่ยังมีชีวิตอยู่นั้นกวนอูได้ว่าคิดว่าตนนั้นได้ทดแทนพระคุณโจโฉ โจโฉรู้ว่ากวนอูจะไปจากตนก็เสียใจและเสียดาย รู้ว่าหากกวนอูกลับไปหาเล่าปี่ซึ่งเป็นศรัตรูคนสำคัญของตน ภายภาคหน้าตนจะลำบาก โจโฉนั้นเป็นผู้บริหารที่รักษาคำพูดแสดงสปิริตแก่กวนอูให้ลูกน้องของตนทุกคนได้รู้จักคำว่า “การรักษาคำพูดและคำสัญญา” ชื่นชมกวนอูให้เหล่าลูกน้องตัวเองฟัง ให้ทุกคนได้เอาเยี่ยงอย่างกวนอู โจโฉได้ยกเรื่องเล็กๆนำมาสอนให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
นี่ก็ถือว่าเป็นอีกตอนที่น่าชื่นชมโจโฉและกวนอูและได้ให้ข้อคิดต่างๆไว้ผู้อ่านอย่างมากมายเรื่องความซื่อสัตย์
กระทรวงศึกษาธิการต้องการนำเรื่องความซื่อสัตย์ของกวนอูมาสอนนักเรียน จึงกำหนดเรื่องราวตอนนี้ลงในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยในหลักสูตรชุดปัจจุบัน โดยใช้ชื่อตอนในหนังสือเรียนว่า
“กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ”
และหนังสือเรียนสำนักพิมพ์อื่นๆ บางสำนักพิมพ์ตั้งชื่อตอนว่า
“โจโฉเกลี้ยกล่อมกวนอู”
สามารถดูเนื้อหาตรงนี้ได้ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง สามก๊ก 1994 ตอน “กวนอูทำสัญญาสามข้อ”
*ทหารเลวหมายถึง ทหารธรรมดาไม่มียศ
No Comment