Homeสามก๊กตามรอยสามก๊กในจีนระเบียงสนเตียวหุย

ระเบียงสนเตียวหุย

เส้นทางตามรอยสามก๊ก เซว่ยหยุนหลาง ระเบียงสนเตียวหุย

หนึ่งในเส้นทางอันแสนโรแมนติกร่มรื่นของจีน (และของโลก) มิน่าเชื่อว่าจะมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิจิ๋นซี และมาเกี่ยวพันกับเรื่องราวสามก๊กอย่างแยกมิออก รวมทั้งตำนานของพระสนมเอกหยางกุ้ยเฟยกับฮ่องเต้ถังเสวียนจงอันลือลั่นอีกด้วย…

ระเบียงสนเตียวหุย

 

เซว่ยหยุนหลาง 翠云廊 ระเบียงสนเตียวหุย ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองเหมียนหยางไปยังเมืองเจี้ยนเหมิน หรือตอนหนึ่งของ “ซานกว๋อสู่เต้า” (เฉิงตูถึงซีอาน สายเก่า) ในภาพคือจุดเริ่มต้นของเซว่ยหยุนหลาง บริเวณหน้าอารามชีชวีซานต้าเมี่ยว 七曲山大庙

 

สนเตียวหุย

สองข้างทางสองเลนยาวหลายสิบกิโลเมตรนีทางการมณฑลเสฉวนได้อนุรักษ์ไว้เป็นมรดกชั้นสำคัญของชาติ มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “เส้นทางสามร้อยลี้ ปกคลุมด้วยต้นไม้สิบหมื่นต้น” ต้นสนราวนี้มีอายุยืนยาวนับพันปีถึงหลายร้อยปี ปลูกขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน ต่อมา เมื่อเล่าปี่เข้าครองเสฉวน เตียวหุยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองปาเส การเดินทางไปมาหาสู่ต้องผ่านเส้นทางสายนี้ เตียวหุยได้นำทหารและชาวบ้าน ร่วมกันปลูกต้นสน เพื่อสร้างความร่มรื่นให้สองข้างทาง ชาวบ้านจึงเรียกกันสืบมาว่า “สนเตียวหุย” หรือ จางเฟยป๋อ 张飞柏 เพื่อเป็นการรำลึกถึงเตียวหุยมาจนถึงปัจจุบัน

 

กำแพงเมืองจีนสีเขียว

เจี้ยนหมินป๋อ หรือ สนเจี้ยนเหมิน สนสัญลักษณ์ของเส้นทางสายนี้บริเวณทางเดินระเบียงสนเตียวหุย ได้รับการเรียกขานว่า “กำแพงเมืองจีนสีเขียว” หรือ “ลมหายใจแห่งเส้นทางสามก๊ก”อันร่มรื่นทั้งธรรมชาติและงดงามในทัศนวิสัยอันยาวไกลของผู้ปกครองเมื่อกาลก่อน

 

เส้นทางประตูกระบี่สู่แคว้นสู่

ลายมือของประพันธกรเอกของจีน กัวม่อรว่อ “เจี้ยนเหมินสู่เต้า” เส้นทางประตูกระบี่สู่แคว้นสู่ เพราะจากนครหลวงฉางอาน (ซีอาน) มายังแคว้นสู่หรือจ๊กก๊ก จะต้องผ่านบริเวณด่านเจี้ยนเหมินกวน ทำให้เส้นทางสายนี้ได้รับการเรียกขานในชื่อนี้อีกนามหนึ่ง

 

สนโบราณอายุนับพัน

สนโบราณอายุนับพันและหลายร้อยปี ยืนต้นเรียงรายบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้อนุชนได้รับรู้อย่างน่าชื่นชม

 

เรียกสนอาเต๋า

ด้านขวามือ เรียกสนอาเต๋า 阿斗柏 กิ่งก้านด้านขวาหักแหว่งไป เล่ากันว่า เมื่อครั้งพระเจ้าเล่าเสี้ยน (อาเต๊า) ยอมจำนนต่อทัพวุยก๊ก และถูกนำตัวไปนครลั่วหยาง ระหว่างทาง เกิดฝนตกหนัก ได้นั่งพักอยู่ใต้ร่มเงาของสนต้นนี้ เมื่อพระองค์ไปอยู่ลั่วหยางแล้ว ก็ลืมพสกนิกรและบ้านเกิดเมืองนอนของตน ชาวบ้านที่ทราบว่าอาเต๊าเคยมานั่งพิงสนต้นนี้ ก็ใช้ขวานมาสับลำต้นแหว่งไปด้านหนึ่ง เพื่อระบายความคับแค้นใจ จากนั้น ลำต้นนี้ก็มิงอกกิ่งแตกใบอีกเลย???!!!

 

สนจอมพล

สนจอมพล 帅大柏 สนอายุมากที่สุดและมีขนาดลำต้นใหญ่ที่สุด ประมาณว่า มีอายุกว่า ๒,๕๐๐ ปี มีความสูง ๒๙ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๒๔ เมตร ถ้าสนต้นนี้สามารถพูดได้ คงสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นบนเส้นทางสายนี้ให้เราได้ฟังมิรู้จบ…

สนคู่รัก

สนคู่รัก 夫妻柏 ด้านล่างหนึ่งต้น ด้านบนแยกเป็นสองต้น เคียงคู่กันขึ้นไป สนต้นนี้ มักมีคู่แต่งงานมาถ่ายภาพ เพื่อจะได้ครอบรักกันยาวนานดุจสนคู่รักนี้

ขอบคุณรูปภาพและบทความจากคุณ Pariwat Chanthorn ที่อนุญาตให้นำมาแชร์ความรู้ให้เราอ่านกัน

แสดงความเห็นได้ที่
Share Button
Previous post
เล่าปี่สิ้นใจที่เป๊กเต้เสียเมืองจักรพรรดิขาว
Next post
สามเพลงตกม้าตาย

No Comment

Leave a reply